Thursday, December 1, 2011

ขึ้นทะเบียนเกษตรกรณ์

Nov 25,2011

หลังจากที่เช็คเรื่องน้ำท่วมตลอดเวลาว่าทางกรุงเทพ และเขตบ้านที่อยู่เป็นอย่างไรบ้าง และทราบว่าเขตจตุจักรและปทุมธานีโอเคแล้ว ยกเว้นบ้านพี่สาวที่ดอนเมือง
ก็ตัดสินใจเดินทางกลับเข้ากรุงเทพ ที่ต้องอพยพย้ายครอบครัวมาพักพิงที่เชียงรายครบเดือน
ทุกบ้านก็เดินทางกลับเข้าบ้านของตนเอง พี่ชาย พี่สาว หลานๆก็กลับเข้าบ้านนันทนาการ์เด้นท์ที่ปทุม
ส่วนครอบครัวพี่สาวก็ไปพักพิงที่บ้านนันทนาก่อนจะกลับเข้าบ้านดอนเมือง
ส่วนครอบครัวดาและคุณยายก็กลับเข้าบ้านที่จตุจักร ทุกคนเดินทางกลับเข้าบ้านมาอย่างปลอดภัยและโหยหาบ้าน ด้วยความคิดถึง และเป็นห่วงบ้าน

เช้ารุ่งขึ้นทุกคนก็รีบจัดการทำความสะอาดบ้านหลังน้ำลด ทุกอย่างก็เป็นไปตามขั้นตอนของการทำความสะอาด ส่วนตัวดาโชคดีหน่อยที่ไม่ต้องทำเอง กลับเข้าบ้าน บ้านแห้งและเรียบร้อยทุกอย่างแล้ว ลูกๆบ่นว่าเสียดายที่ไม่ได้เห็นบ้านตัวเองน้ำท่วมและมีบรรยากาศเป็นอย่างไร

จะเห็นได้ยังงัยคะคุณลูก ก็ครอบครัวเราหนีก่อนน้ำมาและกลับหลังน้ำลด

ดาเลยตัดสินใจไปที่เขตปากเกร็ดเพื่อไปทำเรื่องขอรับเงินชดเชยน้ำท่วมที่ทางรัฐบาลประกาศ จะมอบให้บ้านที่เจอน้ำท่วมเกิน 7 วันและเสียหายน้อย ได้บ้านละ 5000 บาท ถ้าบ้านพังและเสียหายทั้งหลังจะได้ 30000 บาท

เอกสารที่ต้องเตรียม
1.บัตรประชาชน
2.ทะเบียนบ้าน
3.รูปภาพที่บ้านน้ำท่วม (ข้อนี้ไม่มีคะ)

เมื่อเดินทางไปถึงที่เขตปากเกร็ด ให้ติดต่อที่ชั้น 4 เนื่องจากเขตที่บ้านย้ายเจ้าหน้าที่อบต.ทั้งหมดมารับใช้ประชาชน โดยเปิดเป็นสำนักงานชั่วคราว (ก็ อบต.ก็โดนน้ำท่วมเหมือนกัน)
เจ้าหน้าที่ก็จะให้กรอกแบบฟร์อมและแนบเอกสารที่เตรียมไป ก็เพียงแค่นี้เอง ทุกอย่างเรียบร้อย

ขึ้นทะเบียนเกษตรกรณ์ รับเงินชดเชย ไร่ละ 5000 บาท
แต่ก็โชคดีที่เจอกับผู้ใหญ่บ้านพอดี มาเลยมาทำเรื่องขึ้นทะเบียนเกษตรกรณ์ ก็ที่สวนเราก็จมน้ำหมดเหมือนกัน ทางอบต.ก็ทราบ ผู้ใหญ่บ้านก็เห็น ว่าแล้วผู้ใหญ่บ้านก็บริการพาไปที่ห้องรับเรื่องคำร้องเกษตรกรณ์และบอกว่าลูกบ้านมากันหมดทุกหลังแล้วและบ้านดานะเป็นหลังสุดท้าย จะเรียกว่าโชคดีก็ได้นะคะ

เอกสารที่ต้องเตรียม

1.บัตรประชาชน
2.ทะเบียนบ้าน
3.รูปภาพที่บ้านน้ำท่วม (ข้อนี้ไม่มีคะ)
4.พยาน 2 คน
5.สมุดบัญชี ของธนาคาร ธกส

หลังจากนั้นก็แนบเอกสารทั้งหมด พร้อมเจ้าหน้าที่จะสัมภาษณ์เราว่าที่สวน มีอะไร ปลูกอะไรบ้าง จำนวนเท่าไหร่ และมีอะไรเสียหายบ้าง เพื่อทำการบันทึกข้อความ และมีพยานเซ็นต์ชื่อรับรอง พิ้นที่ที่รัฐชดเชยให้จะต้องหักกับส่วนที่เป็นตัวบ้าน และบ่อปลาที่เลี้ยงไม่เกี่ยวกัน (กรณีนี้ถ้ามีสัตว์เลี้ยงต้องทำเรื่องกับกรมปศุสัตว์)

ทุกอย่างเรียบร้อย ทางเจ้าที่รัฐจะเข้ามาตรวจสอบ และจะโอนเงินค่าชดเชยเข้าให้ที่บัญชีของธนาคาร ธกส. ให้

แต่ดายังขาดรูปน้ำท่วมที่บ้านสวน เสร็จงานเอกสารแล้วต้องขับรถลุยน้ำท่วม เพื่อไปถ่ายภาพสวนที่จมน้ำ และต้องกลับมายื่นประกอบเรื่องอีกครั้ง นั้นเราเดินทางไปลุยกันต่อที่บ้านสวน ต.คลองข่อย ถนน 345 กลัวนิดหน่อย ทราบว่าน้ำท่วมยังสูงอยู่ รถเล็กยังไม่สะดวกเท่าไหร่ แต่ก็พอที่จะวิ่งได้นิดหน่อย และมีน้ำลึกเป็นบางช่วง..หัวใจเต้นตุ๊บตับ กลัวนิดหน่อยก็เราไม่เป็นเครื่องยนต์ ถ้าดับกลางคันต้องทำงัยละ

รู้แต่ข้อมูลเบื้องต้น กรณีขับรถลุยน้ำ คือ ปิดแอร์ เปิดกระจก และถ้าขับรถลุยน้ำอยู่ห้ามจอด ต้องขับวิ่งไปเรื่อยๆ กันน้ำเข้าท่อไอเสีย เอ้าละสิ..ลุยก็ลุย มันจำเป็นนิคะ

บรรยากาศภาพบ้านสวนน้ำท่วม













คนสวนสองสามีภรรยา จูงเรือมาส่งที่ท่าเรือ กลับบ้าน



ระหว่างทางเจอรถทหารโบกรถให้จอดและแจกข้าวกล่องเพื่อยังชีพ



เรือวิ่งแข่งกับรถหน้าหมู่บ้านชัยพฤษณ์ ถนน 345



No comments:

Post a Comment

My photo
ฉันไม่ใช่ผู้วิเศษ ยังมีโมหะ โทสะ โลภ โกรธและหลง เหมือนกับคนอื่นๆ แต่ทุกลมหายใจ ณ.เวลานี้ มีแต่วันนี้และพรุ่งนี้ คิดดี ทำดี และเป็นกัลยาณมิตรที่ดี สร้างกุศลให้ลูกหลาน