Thursday, March 29, 2012

Cherry Blossom at Washington D.C

March27,12

วันนี้มีนัดกับโอ็ท และกลุ่มของน้องดร.บิ๋ม อีกสองคน รวมกันทั้งหมด ก็ห้าสาว ตั้งใจว่าจะไปลุยถ่ายภาพดอกซากุระที่วอชิงตันดีซี ตรวจสอบว่าเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมาดอกไม้กำลังบานอยู่ ยังไม่ถึงกับร่วง ปีนี้อากาศอุ่นเร็วกว่าทุกที เลยทำให้ดอกซากุระ จะบานเร็วกว่าทุกปี และมีนัดกันเดินทางวันอังคารที่ผ่านมา แต่บังเอิญว่าวันจันทร์เมือวาน เกิดมีลมแรงในละแวกแถวบ้าน เลยไม่แน่ใจว่าที่วอชิงตันดีซี จะมีอากาศกันอย่างไรบ้าง แต่นัดกับเพื่อนๆที่จะเดินทางอยู่แล้ว เลยไม่อยากที่จะยกเลิก และตัดสินใจเดินทางไปเที่ยวกัน

เมื่อถึงวันที่กำหนด น้องโอ็ทก็ขับรถจากเมือง Newark มารับดาที่บ้าน แต่เกิดสายกว่าเวลาที่นัดไว้เกือบชั่วโมงครึ่ง รถโอ็ทเกิดยางแบน เลยเสียเวลาต้องวิ่งเข้าปั๊มเติมลมก่อนที่จะขับมารับดาได้ตามเวลาที่นัดไว้

เมื่อโอ็ทเดินเข้าบ้านก็แจ้งว่า กลุ่มดร.บิ๋มขอยกเลิกเดินทางกันทั้งกลุ่ม เนื่องจากเลยเวลามากไป แต่ยังหลงเหลือ โอ็ทและดาก็ยังที่จะเดินทางไปลุยเก็บภาพกันต่อ เพียงกันแค่สองสาว

กว่าจะเดินทางมาถึงวอชิงตัน ดีซี ก็เกือบบ่ายสองโมงครึ่งได้ ขับรถออกจากบ้านใช้เวลาเดินทางเกือบสามชั่วโมง  ขับรถวิ่งวนไปวนมา เพื่อหาที่จอดรถก็เกือบบ่ายสามโมงเย็นได้

เราจอดกันริมขอบถนน ด้านข้าง Lincoln Memorial ทางปีกซ้ายของตัวอาคาร และเดินกลับมาเที่ยวที่ Lincoln Memorial กันก่อน


และเข้าไปเก็บภาพ Lincoln


และเริ่มสร้างภาพเเก็บบรรยากาศโดยรอบ








ได้ภาพจนเป็นที่น่าพอใจ ก็ชวนกันไปเพื่อจะไปเก็บภาพ Cherry Blossom ที่อยู่รอบบึงน้ำแถวอาคาร Jefferson Memorial เก็บภาพสถานที่เด่นๆที่ไม่ควรพลาด



 
เสียดายมาช้าแค่วันเดียวเอง เจอพายุพัด จนดอกไม้เกลี้ยงไม่หลงเหลือสีสันให้เห็นเลย




สามารถเห็นได้ทุกสิบนาที จะมีฮอลิคอปเตอร์บินผ่านตลอดเวลา


ดอกไม้ Cherry Blossom หลังเจอมรสุม มีหลงเหลืออยู่บ้าง กับความงามที่ไม่สมบรูณ์







สาวน้อยที่เป็นไกด์พาเที่ยว




บรรยากาศจะเจอนักกีฬาวิ่งออกกำลังกายบ้าง บางส่วนก็จะขี่จักรยานบ้าง


จะเจอแบบนี้ก็มีบ้าง ยืนจูบกันแบบโรแมนติค ไม่แคร์สายตาตากล้องแบบเรา


หนุ่มในเครื่องแบบที่เดินตรวจสถานที่ ดูแลความเรียบร้อย


รถนั่งเที่ยวชมเมืองโดยรอบแบบ และมีไกด์บรรยายสถานที่แห่งท่องเที่ยว


ดากับโอ็ทเดินเที่ยวถ่ายภาพจนถึงเวลาที่กำหนดจอดรถได้ไม่เกินสามชั่วโมง ก็ชวนกันเดินกลับมาเอารถ เพื่อที่จะย้ายและหาที่จอดรถใหม่ก่อนที่จะเจอใบสั่ง

และมาถึงที่จอดรถ ก็เห็นกระดาษแผ่นหนึ่งแนบอยู่กับกระจกหน้ารถ โอ็ทหยิบมาอ่านและยิ้มแบบหลุบๆ
เราเจอดีแล้วพี่ ใบสั่งจากนครวอชิงตันดีซี โดนปรับจอดรถเกินเวลาที่กำหนด ค่าปรับ 108$ ให้ส่งเงินค่าปรับทางไปรษรีย์

โอ็ทเดินกลับไปอ่านตรวจสอบที่ป้ายอีกครั้ง สามารถจอดตรงที่จอดได้ไม่เกิน 4 pm. เท่านั้นเอง
แต่เรามาถึงตรงที่จอดก็ 3pm. แสดงว่าจอดได้แค่ชั่วโมงเดียว แต่โอ็ทเข้าใจว่าจอดได้ 4 ชั่วโมง แบบไม่ได้เฉลียวใจกันเลย ค่าซื้อความรู้คราวนี้ 108$ สบายใจคะ

Apr28,12
ได้รับโทรศัพท์จากโอ็ทมาเล่าเรื่องขำอีกเรื่อง ว่าเจออีกเด้ง ดาก็งงว่าเรื่องอะไร โอ็ทบอกว่าโดนใบสั่งจากวอชิงตันดีซี อีกฉบับพร้อมเอกสาร รูปภาพรถ สถานที่ เวลา ว่ารถขับใช้ความเร็วเท่าใด โอ็ทขับรถใช้ความเร็วที่ 39 ไมล์ต่อนาที แต่ที่ตรงถนนมีกำหนดที่ 25 ไมล์ต่อนาที โดนปรับอีก 125$ เที่ยวคราวนี้แพงมหาโหดเลย กฎหมายจราจรที่เข้มงวดมาก ขับรถต้องระวัง สายตาต้องเร็ว มองให้มั่นก่อนจะขับ หรือเลี้ยวที่ต้องไหน กล้องมีซ่อนทุกซอกทุกมุม โดยที่เราไม่สามารถรู้ได้เมื่อใด

ประสบการณ์เที่ยววอชิงตันดีซี ที่ตะลอนแบบลุยๆกับความรู้สึกที่ต้องจำอีกยาวนาน



Monday, March 26, 2012

HealthMaster ELITE

March 25,12
อารมย์บ่..จอยมาหลายวัน ไม่ค่อยอยากจะคุยกับใครมาก รวมถึงกับลุงแม็ทด้วย แม็ทชวนคุยด้วยถามคำตอบคำกันไป อยู่ๆเมื่อวานก็เจอกล่องกระดาษนี้หน้าประตูบ้าน กล่องเบ้อเร่อเลย


จัดการแกะกล่องกระดาษ ก็เห็นสิ่งนี้ อะไรเนี่ย สั่งมาให้ทำอะไรกัน..ให้มาเป็นแม่ค้าขายน้ำปั่นมั้ง



ตกดึก ก็มาชวนคุยและชวนเดินชมต้นไม้หลังบ้าน บอกว่า ไม่อยากไปไหนทั้งนั้นละ ไม่ไป จนคนชวนหน้าจ่อยไป ตื่นเช้าขึ้นมาจึ่งเห็นสองกระถางนี้แขวนอยู่


ท่าทางอยากจะดาอารมย์ดีขึ้นมาบ้างมั้ง เห็นดอกไม้ก็สดชื่นบ้างละ แต่อย่างไรเสีย ก็ไม่ดีเท่าได้มาทั้งสวนมั้ง

การถอนเงินจากธนาคาร Bank of America

March 23,12

ได้รับเช็คคืน จากธนาคาร Commicial Bank ที่สั่งมาในนามของตัวเราเอง ซึ่งปกติแล้วก็ยังไม่เคยได้รับเลยและเป็นครั้งแรก ดาก็ไม่เคยมีความรู้ด้านนี้เลย ก็ลองถามมัมมี่ว่าได้เช็คแบบนี้จะต้องไปถอนได้ที่ไหน มัมมี บอกว่าไม่รู้เหมือนกัน จะถาม Dabbie ให้ ก็ได้คำตอบว่าจะต้องไปธนาคารที่เราได้รับเช็ค

ตรวจสอบในละแวกบ้านไม่มีเลย เพราะตั้งใจว่าจะทำเองโดยไม่ให้แม็ทรู้ ไปๆมาๆ ก็จะต้องขอความร่วมมือจากแม็ทช่วย แม็ทก็พาที่ธนาคาร TD Nation Bank ซึ่งเป็นธนาคาร Commicial Bank ในปัจจุบัน

เมื่อมาถึง แม็ทก็ให้เซ็นต์ชื่อที่หลังเช็ค และเตรียมบัตร Green Card รอเจ้าหน้าที่

ได้คิวเราแล้วก็จัดการ ติดต่อเจ้าหน้าที่ ...และแจ้งว่า ค่าธรรมเนียมธนาคารในการถอน ฉบับละ 5$ และเช็คดาได้รับคืนมาแค่ฉบับละ10.55$ จะเหลืออะไรละ ...ขอย้ำฉบับละ 5$ เป็นค่าธรรมเนียมการถอน

เจ้าหน้าที่ธนาคาร แนะนำไปที่ธนาคารไหนก็ได้ที่เรา เปิดบัญชีไว้ในนามตัวเรา

ดาและแม็ทก็ต้องเดินทางออกจากธนาคาร TD Nation Bank และเดินทางไป Bank of America แทน

เมื่อมาถึง ก็แจ้งเจ้าทีธนาคาร ว่าต้องการถอนเงินจากเช็คที่ได้รับ

เอกสารที่เตรียมยื่น Green Card  และ Debit card เพื่อตรวจสอบว่าเรามีชื่อบัญชีธนาคารจริงไหม
กว่าจะได้เงิน โอ้โห..ยากเย็นจริงๆ

สรุปแล้วว่า ประเทศอเมริกาในปัจจุบันนี้ จะทำการถอนเงินจากเช็คธนาคารใดๆก็ตามได้ จะต้องไปที่ธนาคารที่เรามีชื่อบัญชีเท่านั้น ถึงจะไม่เสียค่าธรรมเนียมธนาคาร ไม่อย่างนั้นโดนเก็บ 5$ แน่นอน

และขอเพิ่มเติมอีกเรื่องของ Bank of America ในปัจจุบันนี้ กรณีที่ ปริ้นต์สำเนาการฝากหรือถอนที่เครื่อง ATM ธนาคารเริ่มที่จะเก็บค่าธรรมเนียมในการปริ้นต์ 3$ แล้วเป็นรายเดือน
แนะนำให้ฝากถอน ตามรายการปกติจะดีกว่า

Saturday, March 24, 2012

Walked at Park

March 21,12
วันนี้มัมมี่ก็โทรมาหาแต่เช้า และเล่าว่าหมอสั่งให้เดินออกกำลังบ้างเพื่อสุขภาพ และวางแผนจะไปที่ปาร์คใกล้บ้าน และมัมโทรมาชวนแต่เช้า เพื่อถามดาว่าดาจะไปด้วยไหม จะได้แวะมารับ แต่ดาติดอ่านหนังสือกับกลุ่มอยู่เลยขอนัดเป็นเที่ยงไปอีก

และเวลาใกล้เที่ยงมัมก็โทรมาอีก แต่ขอเลื่อนออกไปอีกสองชั่วโมง เพราะยังติดอ่านหนังสือกันไม่จบ

ได้เวลานัดบ่ายสอง ก็จัดการเปลี่ยนเสื้อผ้า สบาย ง่ายๆ และแถมสะพายกล้องติดมือไปด้วย

ไปถึงที่ปาร์ค เห็นดอกไม้เป็นสีชมพูหลายต้น มัมมี่ก็ชมว่า ดอกไม้สวย และบอกว่าอยากถ่ายรูป เล่นดา..งงเลย... ซึ่งปกติ มัมมีไม่เคยขอถ่ายภาพเลย ครั้งแรกนะเนี่ย

ทุกท่าทาง มัม กำหนดเอง..น่ารักไหม







มีดอกไม้ที่กำลังเบ่งบานอยู่ แต่เสียดายที่ท้องฟ้าไม่แจ่มใส ฟ้าหมองเหมือนฝนจะตก
ดอกไม้ไม่แจ่มเท่าที่ควร











นั่งพัก หลังที่เดินออกกำลังกายเสร็จ

Sunday, March 18, 2012

ประสบการณ์ลูก

March 18,12
ช่วงนี้ที่ไทยเป็นช่วงปิดเทอมภาคฤดูร้อน หรือเรียกอย่างหนึ่งว่าปิดเทอมใหญ่ เด็กบางคนก็ชอบที่ได้หยุดไปโรงเรียน เด็กบางคนที่เรียนอยู่ในวัยมัธยมปลาย ก็เครียดกับการเรียนพิเศษเพื่อเตรียมตัวเข้ามหาวิทยาลัยที่่มากมาย จนหาเวลานอนจะไม่มี

เด็กบางคนที่อยู่ในช่วงช้้นเรียน ม.ต้น และกำลังขึ้นม.ปลาย ก็เครียดกันตามๆ เด็กบางคนที่เรียนหนังสือเก่งๆ ก็ย้ายจากโรงเรียนเดิม ไปอยู่โรงเรียนเตรียมอุดมบ้าง ไปโรงเรียนมหิดลอนุศรณ์บ้าง และแต่ความสามารถของเด็กกันไป เด็กบางคนก็พึงพอใจอยู่กับโรงเรียนเดิมอย่างมีความสุข แต่ก็เครียดกับการเลือกแผนการเรียนที่แบ่งกลุ่มเด็กออกเป็นเด็กสายวิทย์ สายศิลป์คำนวน ศิลป์ภาษา ศิลป์สังคม และแล้วแต่ละโรงเรียนที่จะมีการกำหนดแผนการเรียนเพื่อมุ่งเน้นพัฒนาเด็กนักเรียนกันไป

ส่วนลูกสาว เมื่อสองวันก่อนก็เครียดกับการที่จะได้แผนศิลป์ภาษาญี่ปุ่นที่สมัครไหม และโรงเรียนก็มีมาตราฐานที่กำหนดการเรียนที่มีค่าเฉลี่ย 2.75 แต่ลูกสาวก็ได้เกินอยู่ 2.98 ก็ถือว่าพอใช้ได้ แต่ติดทีคะแนนหัวทะโมนเนี่ยละ ที่หนักใจ ว่าผลมติที่ประชุมครูจะให้ผ่านไหม เนื่องจากทางโรงเรียนชอบที่จะเก็บเด็กที่เรียบร้อยไว้ ส่วนที่แต่งกายไม่เรียบร้อย หรือสร้างชื่อแบบว่าไว้ ก็จะได้ทีที่ทางโรงเรียนเชิญออก แต่ก็รู้นะว่าลูกสาวไม่ถึงขั้นนั้น เพียงแค่ทะโมนนิดหน่อย แค่ครูชอบกระเซ้าเหย้าแหย่ แต่เป็นที่รักครูเสมอ

พอถึงวันที่ประกาศก็รอลุ้นผล..สรุปแล้วลูกสาวผ่าน ได้แผนศิลป์ญี่ปุ่น...โล่งอกแม่

และมีอยู่วันหนึ่งลูกก็เกริ่นๆว่าปิดเทอมนี้ ว่าอยากวาดภาพหาเงิน เก็บค่าขนม แม่ก็คุยว่าทำอย่างนี้สิ ทำอย่างนั้นสิ แต่ถ้าอยากวาดภาพ บอกว่าให้ไปเที่ยวถ่ายรูปที่วัดพระแก้ว คุยกับฝรั่งเป็นไกด์เล่น หาเรื่องแบบว่าสนุกในช่วงปิดเทอม

มาอีกละ เพิ่งจะลุ้นหายตกใจเกี่ยวแผนการเรียนที่ต้องต่อในระดับ ม.ปลายที่โรงเรียนเดิม ลูกสาวก็มาเล่าให้ฟังเมื่อเช้าว่า ศุกร์ เสาร์และอาทิตย์ที่ผ่านมาไปทำอะไรกันมา

เริ่มเรื่องที่ไทยมีคอนเสริต์วงจากเกาหลี ที่อิมแพ็ค ชื่อวงอะไรนะก็จำไม่ได้ ที่มีชื่อ JJ อะไรเนี่ย รวมกลุ่มเพื่อนได้อีกสองคน ไปวาดเฮนน่า ที่หน้างานคอนเสริต์ ลูกเล่า และก็มันส์ในอารมย์ไป แต่ใจแม่ตุ๊บตับ..ลูกชั้น เจ๋งจริงๆๆ

ลูกสาวเล่าต่อว่า วาดไปและก็เละไปในช่วงแรกๆ หมดค่าสีเฮนน่าไปเกือบสามพันบาท แต่ก็ดีที่ซื้อแท็คทูไปด้วย หมดเงินไปอีกสี่พันบาท วาดเละก็เลย หันไปขายแท็คทูกัน วันแรกขายกันอย่างสนุกสนาน เดินตะโกนกัน เห็นเงินนะ ลูกบอกว่า หายเหนื่อย คนมางานกันเยอะมาก...ขายแผ่นละ 20 บาท ก็ขายได้ แต่วันที่สองก็เริ่มที่ราคาเดิมอีก แต่เริ่มมีคู่แข่งแล้ว ก็เหลือ 15 บาท แล้ว ลูกบอกว่า เพิ่งจะเข้าใจว่า การหาเงินนะมันเหนื่อยกว่าจะได้นะแม่ สองวันได้ทุนคืนมาบ้างแล้ว พอเข้าวันที่สาม แทบหมดแรง..ลูกสาวเล่าไป หัวเราะไป ขายไป แถมไป บ้าง หลังๆลูกบอกว่าขี้เกียจแล้วละแม่..เริ่มแจกฟรีเลย  แม่ก็ได้แต่ยิ้ม

ลูกแม่นี้แน่จริงๆ ขอชมจากใจจริง ขอให้แค่เริ่มต้น และเรียนรู้ การเรียนจากประสบการณ์จริงครั้งนี้ จะทำให้ลูกแม่มองออกว่า การแข่งขันทางด้านการตลาดต้องทำอย่างไร การกำหนดราคาและตัวผลิตภัณท์ อีกมากมายที่เป็นตัวกำหนดสินค้า

รักลูกคนเก่งของแม่เสมอ..นะตัวเอง


My photo
ฉันไม่ใช่ผู้วิเศษ ยังมีโมหะ โทสะ โลภ โกรธและหลง เหมือนกับคนอื่นๆ แต่ทุกลมหายใจ ณ.เวลานี้ มีแต่วันนี้และพรุ่งนี้ คิดดี ทำดี และเป็นกัลยาณมิตรที่ดี สร้างกุศลให้ลูกหลาน