วันนี้เป็นวันจันทร์ สำหรับคนที่มีงานประจำก็คงจะเป็นวันเริ่มต้นทำงานวันแรกของสัปดาห์ แต่ดาเป็นวันที่ว่าง หลังจากเสร็จงานทำความสะอาดบ้านทุกอย่างเรียบร้อย จัดการอาบน้ำแต่งตัวนั่งดูทีวีกับที่นั่งเดิมๆ ดื่มกาแฟก็แล้ว กินขนมก็แล้ว ดูหนังก็ช่องเดิมๆ เรื่องก็เดิมอีกมาหลายหน อะไรในสมองก็มีแต่เรื่องเดิมๆ
เดินไปปิดทีวี และหยิบกระเป๋ากล้อง ออกไปเดินเล่นบ้างดีกว่า ตั้งใจว่าจะออกเดินไปล่าภาพตามอักษรไทยที่ยังค้างส่งอยู่ หัวสมองก็ไม่เห็นมีอะไรติดตาติดใจเลย
เดินมาจนถึงป้ายรถเมล์ จนเห็นรถเมล์สาย 104 จอดส่งผู้โดยสารพอดี ดาก็ยังไม่รู้ว่าสายนี้ไปไหน เลยไม่กล้าขึ้น ก็ยืนอ่านป้ายกำกับก่อน และก็จดว่ามีสายไหนบ้าง
และก็มาสาย 123 มาพอดี อ้าว ไป King of Prussia
ว๊าว...สมองปิ๊งทันที
แต่รถไม่ยอมจอด จะวิ่งผ่านไปพอดี ดาต้องยกมือ จอดด้วยคะ
โชคดี คนขับรถมองมา และจอดอยู่กลางถนน ว่าแล้วอย่าช้า รีบเดินขึ้นรถทันที
เตรียมเปิดกระเป๋าจะส่งเงินค่ารถให้ คนขับแจ้งว่า นั่งก่อนและค่อยจ่ายทีหลัง
ดีจัง...นั่งชมวิวกับสองบรรยากาศข้างทาง รถไม่จอดป้ายไหนเลย ขับวิ่งตรงไปเรื่อยๆ ไปจนถึงหน้าห้างKing of Pussia และชำระค่ารถ 2.50$
แต่รถคันที่นั่งมาเครื่องเก็บเงินเสีย คนขับรถเลยบอกว่าไม่ต้องจ่าย You can go...
I'm lucky today... Free bus ticket
เดินเข้าห้าง King of Pussis จะเจอร้าน New York &Company อยู่ตรงช่องทางเดินเข้าห้าง ต้องจำเป็นจุดเด่นเวลาเดินทางกลับ เนื่องจากห้างนี้เป็นห้างที่ใหญ่ที่สุดของเมือง บรรยากาศห้างเดินแล้วทำให้นึกถึงสยามดิสคอวอรี่ บ้านเราเลย เดอะเอ็มโพเรี่ยมเหมือนกัน ทันสมัยสุดๆ
ว่าแล้วมาถึง ก็เดินหาและสำรวจห้องน้ำก่อน เป็นอย่างไรบ้าง เดินหาอยู่นาน เพราะห้างใหญ่ กว้างจริงๆ แต่เจอห้องน้ำแล้ว ไม่ผิดหวังทันสมัยมาก เหมือนอยู่ไทยเลยเราวันนี้
ที่เป่ามือให้แห้ง
ผนังร้านค้าที่ตกแต่งช็อบ Papyrus ซึ่งอยู่โซนอาหารชั้นสองฝั่ง Sear
ว่าแล้วเดินผ่านตรงนี้ก็ขอแวะ ทานของอร่อยหน่อยเถอะ มีอาหารแบบฝรั่ง แซนวิช บรรยากาศนั่งตามทางเดินเท้า ตกแต่งสถานที่หรูมาก ที่ชอบอยู่ร้านไอติมแบบโยเกิตต์ น่าทานจัง
เอาละเดี๋ยวกลับมากินดีกว่า
เดินไปเรื่อยๆ อ้าวเจอ ร้าน Tokyo Bay น่าทานจัง
แวะร้านนี้แล้วกันจะได้หิ้วออกมานั่งด้านนอกถ่ายรูปดีกว่า
สมองเริ่มที่จะคิด จัดการดูรายการอาหาร
ตายละสิ ดันเป็นอาหารจีนแบบทูโก และมีกุ้งเทมปุระทอดโชว์ตู้อยูสองตัว
เอาละสิ ไม่กล้าสั่งอาหารญี่ปุ่นเลย กลัวไม่อร่อยสมกับราคา
เปลี่ยนใจสั่งจีนก็จีนละเข้ามาแล้วนิคะ
จ่ายเงินเรียบร้อยจะเดินออกไปนั่งนอกร้านสักหน่อยเอาบรรยากาศแบบฝรั่ง
ซวยละสิห้ามนั่ง ของคนละร้าน
ต้องเดินกลับเข้ามานั่งข้างในร้าน Tokyo Bay เหมือนเดิม
ไม่ประทับใจรสชาติเลย แต่สถานที่ตกแต่งหรูดีใช้ได้ ไม่เก็บภาพมาโชว์ดีกว่า
และเดินกลับมาว่าจะกินไอติมสะหน่อย แต่คนขายหายไปไหนไม่รู้ อดเลยเรา
นั้นเดินหาร้าน Starbuck ดีกว่า ไปนั่งชมหนุ่มฝรั่งนั่งเล่นคอม บรรยากาศเหมือนบ้านเราเลย ที่เจอแต่วัยรุ่นบ้าไอทีมานั่งเล่นคอมโชว์กันไป ดูแล้วสบายตา
แต่ไม่กล้าถ่ายภาพหรอก แค่หยิบกล้องมาส่งแก้วที่ดื่มก็เกรงใจจะแย่
บรรยากาศหน้าร้าน Starbuck
มีรถมาจัดโชว์อยู่สองคัน ก็ได้รับความสนใจดี
ห้างนี้มีร้านที่มีสินค้าทีมีแบรน์หลายยี่ห้อ Cartier Armani Burburry หลุยส์ Forever 21 Babe ว่าแล้วดาก็แค่เดินดู สำรวจห้างว่ามีอะไรบ้าง วันหน้าจะมาเดินช็อบปิ้งอย่างเดียวบ้าง
ก็ได้เวลาเดินทางกลับบ้าน เดินกลับไปรอรถที่ป้ายรถเมล์ สาย 123 กลับบ้าน
เดินทางกลับบ้านรถวิ่งเส้นทางใหม่ ไม่ซ้ำเส้นทางเหมือนเที่ยวขามา ก็ไม่สนใจ แค่จำให้ได้ว่าจะต้องลงตรงไหน ชื่ออะไร โชคดีที่จุดลงเป็นจุดใหญ่เลยไม่กังวลมากว่าจะเลย แต่ก็เดินไปถามว่าป้ายหน้าบ้านมีไหม คนขับรถบอกว่ามี ก็จอดให้ลงป้ายหน้าบ้าน จากนั้นก็เดินกลับเข้าบ้าน
อ้อ..ลืมไปคันนี้ให้จ่ายค่ารถก่อนนั่ง 2.50$ เหมือนกันคะ
เข้าบ้านมาจัดการ เปิดถุงที่แวะซื้อมา ดูอีกครั้ง สบายอารมย์ รองเท้าแตะหน้าร้อนกับแว่นกันแดด
ได้ใช้เงินกับการเดินเที่ยว
เป็นการผ่อนคลายอารมย์ คิดถึงบ้านที่เมืองไทยจัง
No comments:
Post a Comment